5 วิธีบอกรักประชาชนในแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทุกวันนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของคุณ มีเทคนิคมอบความรักให้ประชาชนในพื้นที่กันอย่างไรบ้างครับ นอกจากจัดกิจกรรมพิเศษหรือมอบของขวัญแล้ว การบริหารจัดการท้องถิ่นให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ก็คืออีกวิธีบอกรักประชาชนที่น่าประทับใจสุด ๆ เช่นกันนะครับ วันนี้ Bedrock มีวิธีการแสดงความรักให้ประชาชนได้รู้มาแนะนำกัน
1. เมืองสะอาดน่าอยู่
หลายท้องถิ่นคงรู้กันดีว่าการท้องถิ่นให้สะอาดเรียบร้อย สวยงาม ไม่มีหญ้ารก ไร้ขยะที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์และนำเชื้อโรคมาสู่พื้นที่ คืออีกหนึ่งงานหินของเทศบาล ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ทำให้ท้องถิ่นเป็นเมืองที่สะอาดน่าอยู่ เรียกได้ว่าต้องเข้าใจ ตั้งใจ และใส่ใจในการบริหารจัดการขยะและสิ่งปฏิกูลมาก ๆ เพื่อให้เมืองสะอาด ประชาชนมีความสุข มีความปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
วันนี้ Bedrock มีเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เปรียบเสมือนมือขวาช่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างเมืองให้สะอาดน่าอยู่ ประชาชนมีความสุขมาแนะนำ นั่นก็คือ แพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นระบบกลางด้านข้อมูลระหว่าง Bedrock องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทั่วประเทศไทย ที่สามารถรวบรวม จัดเก็บ จัดการ วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลแบบ Smart Dashboard และ 2D & 3D Data Visualization Platform ของจุดเก็บขยะ จุดตั้งถังขยะ บ่อขยะ และติดตามเส้นทางการเดินรถแบบเรียลไทม์ที่เข้าใจง่ายและมีความแม่นยำสูง พร้อมรองรับการชำระค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเก็บขนขยะมูลฝอย, ลดเวลาในการจัดเก็บขยะ, เพิ่มความสะดวกในการชำระค่าธรรมเนียมจัดเก็บขยะแล้ว ยังได้ Big Data ไปวางแผนการบริหารจัดการเมืองในด้านที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
2. ถนนดี ไฟสว่าง โครงสร้างพื้นฐานพร้อมใช้งานเสมอ
การที่เทศบาลสอดส่องดูแลโครงสร้างพื้นฐานที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบให้พร้อมใช้งานอยู่สม่ำเสมอ ย่อมทำให้เมืองน่าอยู่ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งแน่นอนว่าจะเกิดสิ่งเหล่านี้ได้ พนักงานเทศบาลจะต้องคอยสอดส่องและดูแลทุกซอกทุกมุมของพื้นที่ตลอดเวลา อีกทั้งต้องมีฐานข้อมูลที่แม่นยำในการคาดการณ์อายุการใช้งานของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนน, ไฟส่องสว่าง, ทางเท้า, แผ่นป้าย, ฝาปิดท่อระบายน้ำ, กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV เป็นต้น
เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบอกประชาชนให้รู้ว่ารักมากขึ้น การนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาช่วยในการดูแลงานส่วนนี้ก็น่าจะดี อย่างเช่นระบบบริหารจัดการทรัพย์สินอัจฉริยะ (Smart Asset Management) ระบบจัดการวงรอบและวางแผนรอบการบำรุงรักษาของสินทรัพย์ที่อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะใช้ GIS และ AI ช่วยตรวจจับและจำแนกทรัพย์สิน จัดการข้อมูลทรัพย์สินเทศบาล ตรวจสถานะการใช้งาน บริหารวงรอบและซ่อมบำรุงทรัพย์สิน จัดทำรายงานสรุปสภาพทรัพย์สิน พร้อมมีระบบรับแจ้งเหตุและจัดการปัญหาออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีระบบรายงานปัญหาและรับบริการสำหรับประชาชนด้วย เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยดูแลงานส่วนโครงสร้างพื้นฐาน งานสำรวจ และงานบริการประชาชนที่ครบเครื่องเลยทีเดียว
3. แก้ปัญหาฉับไว ติดต่อเทศบาลได้สะดวก
การที่เทศบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ฉับไว ประชาชนสามารถติดต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้สะดวกคือการตะโกนบอกรักของเทศบาลที่ประชาชนถูกใจมากที่สุด โดยหนึ่งในเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนหรือแจ้งเหตุมาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกันบ่อย ก็คงไม่พ้นเรื่องปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น ถนน, ไฟส่องสว่าง, ทางเท้า, แผ่นป้าย, ฝาปิดท่อระบายน้ำ เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ฉับไวทันใจทุกคน เพราะเทศบาลจะต้องรู้ปัญหาให้เร็วที่สุด ทราบพิกัดที่แม่นยำ มีกำลังคนพร้อม และมีระบบการจัดการและการส่งต่อเรื่องไปยังผู้รับผิดชอบที่ดีมาก ๆ ด้วย
ในปัจจุบันแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้นำออนไลน์มาเพิ่มอีกช่องทางให้ประชาชนติดต่อได้ง่ายขึ้น แต่จะแก้ปัญหาได้ฉับไวมากขึ้น หากมีการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ ๆ เข้ามาช่วยงานเพิ่มอย่าง CITIZEN One Stop Service ที่สามารถช่วยงานด้านแจ้งเหตุและร้องเรียนจากประชาชน เพราะสามารถรับแจ้งเหตุ ร้องเรียน และติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาผ่านทางเว็บไซต์ และ LineOA ที่จัดทำขึ้นมาเฉพาะท้องถิ่น ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและแชร์พิกัดได้ง่ายและแม่นยำ อีกทั้งยังมีระบบส่งต่องานภายในหน่วยงานที่ง่ายดาย สามารถดู Dashboard แสดงภาพรวมการแจ้งเหตุและแก้ไขปัญหาของท้องถิ่นได้ด้วย ส่งผลให้เทศบาลรับเรื่องได้เร็วขึ้น ส่งต่องานได้เป็นระบบ แบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ เหนือสิ่งอื่นใดคือทำให้ประชาชนมีความสุข มีความปลอดภัยทั้งกายและทรัพย์สิน
4. ป้องกันและรับมือทุกภัยธรรมชาติ
ภัยธรรมชาตินำพามาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิต จิตใจ และทรัพย์สิน การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยดูแลตั้งแต่การคาดการณ์ ป้องกัน รับมือ และเยียวยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คืออีกหนึ่งวิธีการบอกรักประชาชนในพื้นที่ เพราะเทศบาลจะต้องมีฐานข้อมูลที่มีคุณภาพ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิด จะได้แจ้งเตือนหรือป้องกันได้ตรงจุด อีกทั้งต้องมีงบประมาณและการวางแผนการช่วยเหลือที่เป็นระบบ จะได้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างเป็นธรรม
ปัจจุบันหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาประยุกต์และคอยติดตามสถานการณ์ภัยธรรมชาติกันอย่างใกล้ชิด เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV, ประกาศเตือนภัยพิบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, แผนที่ดาวเทียม เป็นต้น ซึ่งวิธีเหล่านี้ช่วยให้หลายเทศบาลสามารถคาดการณ์ ป้องกัน แจ้งเตือน และเยียวยาประชาชนได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่วันนี้มีเทคโนโลยีอัจฉริยะหน้าใหม่ที่สามารถรวมศูนย์ข้อมูลจากทุกภาคส่วนมาไว้ในที่เดียว พร้อมมีระบบช่วยวิเคราะห์ คาดการณ์ และแนะนำด้านภัยพิบัติได้อย่างครบวงจร นั่นก็คือ แพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง (City Digital Data Platform: CDDP) ด้านการจัดการภัยพิบัติ ระบบกลางด้านข้อมูลของท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning (ML) มาวิเคราะห์ คาดการณ์ และวางแผนรับมือภัยพิบัติ ผ่านการแสดงผลในรูปแบบ Dashboard และแผนที่ 2D/3D ที่เข้าใจง่าย จึงสามารถวางแผนรับมือ ให้การช่วยเหลือตามลำดับความสำคัญ และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ประชาชนมีโอกาสทางรายได้ ยกระดับการลงทุนในพื้นที่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีที่ทำกิน มีโอกาสทางรายได้ที่หลากหลาย สามารถดึงดูดการลงทุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ย่อมทำให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ดีกินดี อีกทั้งยังดึงดูดให้คนรุ่นใหม่กลับถิ่นฐานบ้านเกิดด้วย สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ เทศบาลจะต้องมีศักยภาพในจัดเก็บรายได้ที่ครบถ้วนถูกต้อง มีระบบการยื่นขออนุญาตที่สะดวก รวดเร็ว เพื่อกระตุ้นการพัฒนาและการลงทุนในพื้นที่
ปัจจุบันหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงมุ่งมั่นตั้งใจทุ่มกำลังคน เวลา และงบประมาณ ปูพรมสำรวจพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีท้องถิ่นได้อย่างถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งนำระบบการชำระภาษีท้องถิ่นและระบบขออนุญาตทางออนไลน์มาใช้ เพื่อโน้มน้าวให้เสียภาษีและเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
แต่ทราบหรือไม่ ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีอัจฉริยะที่สามารถช่วยงานในส่วนนี้แบบครบวงจร นั่นก็คือ ระบบภาษีอัจฉริยะ (Smart Municipal Tax) ระบบแสดงผลข้อมูลการสำรวจที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และป้าย พร้อมช่วยจัดเก็บภาษีและประเมินราคาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัจฉริยะแบบครบวงจร ตั้งแต่การยื่นแบบฟอร์มคำร้องออนไลน์ การตรวจสอบยอดชำระ การติดตามสถานะ และสนับสนุนการสำรวจของเจ้าหน้าที่ ภายในจะประกอบไปด้วย 2 ระบบหลักคือ ระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัจฉริยะ และระบบภาษีป้ายอัจฉริยะ
รวมทั้งยังมีระบบขออนุญาตและควบคุมอาคารอัจฉริยะ (Smart Building Permit Platform) ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการเกี่ยวกับการขออนุญาตและควบคุมอาคารแบบออนไลน์ พร้อม AI ในการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ตั้งแต่ตรวจสอบคำขอ พิจารณาคำขอ อนุมัติคำขอ ไปจนถึงขั้นตอนการออกใบอนุญาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญความพิเศษของระบบนี้ก็คือ ประชาชนสามารถตรวจสอบสีผังเมือง พื้นที่ และสิ่งที่จะปลูกสร้างด้วยตนเองได้ง่าย ๆ พร้อมรับคำแนะนำเบื้องต้นก่อนยื่นขออนุญาตได้ อีกทั้งยังติดตาม และขอใบอนุญาตทางออนไลน์ได้ด้วย
5 วิธีซื้อใจคนในพื้นที่ให้อยู่หมัดที่เล่ามานั้น เชื่อว่าหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำอยู่แล้ว และสามารถทำให้ดีขึ้นไปได้อีกด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เรานำเสนอมา หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดกำลังวางแผนบอกรักประชาชนด้วยเทคโนโลยี สามารถปรึกษา Bedrock ได้ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและวางแผนแม่บทการพัฒนาด้านดิจิทัลให้กับเมืองของคุณ สามารถติดต่อได้ที่อีเมล: contact@bedrockanalytics.ai หรือ Line หรือ Facebook